Blog

แผลเป็น หลังทำตาสองชั้น ต้องดูแลอย่างไร? 


การผ่าตัดบริเวณร่างกายมักจะมีการเกิดรอยแผลเป็นในทุกครั้งที่ผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดแบบใด ซึ่งการผ่าตัดตาสองชั้นก็เช่นกัน เนื่องจากรอยแผลเป็นนี้จะปรากฏอยู่บนพื้นผิวของใบหน้า เราจึงมักจะให้ความสนใจกับรอยแผลเป็นเป็นพิเศษ

แต่คุณรู้หรือไม่ว่า โอกาสการเกิดรอยแผลเป็นนั้นรูปร่างและขนาดของแผลจะแตกต่างกันไป ซึ่งขึ้นอยู่กับผิวหนังของแต่ละคน การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และรู้จักเทคนิคการเย็บแผลที่ดี จะมีผลต่อลักษณะของแผลเป็น ดังนั้น การเลือกแพทย์ที่ดีจึงจำเป็นมากที่สุดอีกทั้งยังต้องดูแลแผลเป็นจากการผ่าตัดอย่างดี

โดยทั่วไป แผลเป็นจากการผ่าตัดใช้เวลาในการฟื้นตัวประมาณ 6-12 สัปดาห์ แต่สิ่งนี้อาจจะแตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลากหลายอย่าง อาทิ ตำแหน่งการผ่าตัด ขนาดของแผลเป็น วิธีการเย็บแผล และอาการผิวหนังหลังจากรับการผ่าตัด รวมถึงการดูแลแผลเป็นด้วย

ก่อนที่เราจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลแผลเป็นหลังจากผ่าตัด เราต้องรู้ว่ารอยแผลเป็นที่เราเห็นนั้นเป็นรูปแบบอย่างไร เพื่อเราจะดำเนินการรักษาได้อย่างถูกต้อง

ลักษณะรอยแผลเป็นมีทั้งหมดกี่ประเภท?

รอยแผลเป็นกระบวนการสมานของแผลของร่างกาของเรา เมื่อมีแผลเกิดขึ้น ร่างกายจะมีการผลิตโปรตีน หรือคลอลาเจนขึ้นมาเพื่อสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ ซึ่งรอยแผลเป็นนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ

  1. แผลเป็นปกติ (Hypertrophic scar): นี้คือแผลเป็นปรกติที่เกิดขึ้นจากกระบวนการฟื้นฟูแผล ในทางธรรมชาติของร่างกาย มันมีลักษณะของแผลนูน มีสีแดง หรือเข้ม ในบางกรณีถ้าได้รับแผลเป็นประเภทนี้ คุณจะไม่ต้องกระทำการรักษา เพราะสามารถหายได้เอง

  2. แผลเป็นคีลอยด์ (Keloid): เกิดจากความผิดปรกติ ปกติ ในกระบวนการซ่อมแซมของร่างกาย เกิดจากคอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นเกินความจำเป็นทำให้เนื้อเยื่อบริเวณผิวของแผลเติบโตขยายออกเกินขอบเขตของแผลเดิม และอาจยังคงขยายตัวออกไปอีกทั้งที่แผลจะสมานแล้วก็ตาม ทำให้แผลเป็นคีลอยด์ มักมีลักษณะที่ใหญ่ คล้ำ กว่าขอบแผลเดิม ทำให้เป็นที่สังเกตได้อย่างชัดเจน บางครั้งอาจมีการแข็งตัว จนทำให้รู้สึกปวดและมีสภาพผิวที่เกร็งรั้งร่วมด้วย โดยทั่วไปแผลเป็นคีลอยด์ ร่างกายจะไม่สามารถทำให้รอยนูนยุบตัวได้เอง บ่อยครั้งแผลอาจจะต้องได้รับการรักษาเพื่อให้แผลยุบตัวและจางลง

วิธีรักษารอยแผลเป็นหลังผ่าตัดตาสองชั้น

  1. ทายาลดรอยแผลเป็น หลังตัดไหมอย่างสม่ำเสมอ 4-6 เดือน แผลจะเรียบเนียนขึ้น

    หากเกิดเป็นแผลเป็นคีลอยด์ มักจะพบในเดือนแรกหลังผ่าตัด หากแผลเป็นมีลักษณะนูน แข็ง และตึงรั้งมาก การนวดคลึงที่บริเวณแผลอย่างสม่ำเสมอร่วมกับการทายาลดรอยแผลเป็น จะช่วยให้แผลเป็นนุ่มและลดการตึงรั้งได้ แต่จะใช้ระยะเวลา 4-6 เดือน จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ 

    หากนวดแล้วไม่ดีขึ้นหรือต้องการให้แผลยุบเร็ว สามารถเข้ารับการฉีดยารักษาคีลอยด์ เพื่อให้แผลนุ่มและยุบตัวได้ไวขึ้นได้ ทั้งนี้การฉีดยาเพื่อลดแผลคีลอยด์ควรให้แพทย์เป็นผู้ฉีดและประเมินอาการอย่างสม่ำเสมอ 

  2. เลเซอร์ลดรอยแผลเป็น จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น โดยเลเซอร์จะช่วยให้ผิวด้านบนเรียบเนียนขึ้น อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ได้อีกด้วย ต้องเข้ามารับบริการเป็นประจำจนกว่ารอยแผลเป็นจะเรียบเนียนขึ้น

หากต้องการ ลดโอกาสการเกิดแผลเป็น ควรต้องทำอย่างไร ?

  • ห้ามแผลโดนน้ำหลังการผ่าตัด ลดโอกาสติดเชื้อ ซึ่งทำให้แผลหายช้า
  • หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนแผล เช่น ไม่ขยี้ตา แกะหรือเกาแผล เพื่อไม่กระทบการสมานของแผลและการทิ้งเป็นรอยแผลคล้ำ
  • งดอาหารแสลงต่างๆ อาทิ อาหารทะเล ปลาร้า อาหารรสจัด เพื่อลดการอักเสบและทิ้งเป็นรอยแผลคล้ำ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ เพื่อให้แผลหายเร็ว ลดความเสี่ยงในการอักเสบได้
  • ควรใส่แว่นกันแดดหรือกางร่มเพื่อลดปริมาณแสงโดยตรง>งดการเดินกลางแจ้งหรือสัมผัสแสงแดดโดยตรง เพื่อลดการกระตุ้นให้เกินรอยดำที่จะเกิดขึ้นได้ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรใส่แว่นกันแดดหรือกางร่มเพื่อลดปริมาณแสงโดยตรง หรือใช้ครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่าร่วมด้วย

แม้ว่ารอยแผลเป็นจะไม่สามารถกำจัดออกได้หมด แต่รอยแผลเป็นส่วนใหญ่จะจางหายไปตามกาลเวลา หากคุณกังวลเกี่ยวกับลักษณะของแผลเป็น สามารถเข้ารับการรักษาได้ที่ At Medical Clinic คุณหมอจะทำการวินิจฉัยและรักษาให้แผลเป็นมองเห็นได้ลดลงได้