บอกลาสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นมา18ปี รีโนเวทตาสองชั้นใหม่แบบถาวร
เริ่มจากการที่แบ๊ตตี้เป็นสาวเหนือตาชั้นเดียว แต่อยากมีตาสองชั้นมาตลอดเลยติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นตั้งแต่สมัยมหาลัย แล้วก็ติดมาตลอดทุกวันเป็นเวลารวมๆน่าจะ 18-19 ปีได้ ติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นจนคนอื่นคิดว่าตาของแบ๊ตตี้เป็นสองชั้นธรรมชาติ จริงๆอยากศัลยกรรมตาสองชั้นมาตลอดนะแต่ก็คิดวนไปวนมาว่าติดสติ๊กเกอร์เอาก็ได้สวยเหมือนกัน จนเริ่มสังเกตุว่าหนังตาของตัวเองมันไม่กระชับ ทั้งยืดแล้วก็ตกลงมาทับชั้นตาเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ การจะติดสติ๊กเกอร์ในแต่ละวันยากขึ้นเพราะหนังตาที่มันยืดและหล่นลงมามากขึ้นทุกวันทุกวัน นี้คือจุดเปลี่ยนที่คิดกับตัวเองว่าเราต้องทำศัลยกรรมตาสองชั้นสักทีสินะแบ๊ตตี้
แบ๊ตตี้ดูรีวิวเยอะมาก ดูทุกที่ที่รีวิวว่าดี แต่เลือกทำที่At Medical Clinicเพราะเห็นรีวิวมีทรงชั้นตาที่แบ๊ตตี้ชอบ และคลินิกดูออกแบบชั้นตาให้ตามตาละบุคคลจริงๆ แต่ละคนได้ทรงตาที่เข้ากับใบหน้า เลยตัดสินใจว่าที่นี่ล่ะที่ฉันเลือกทำตาสองชั้น แล้วจองเข้ามาปรึกษานัดวันกับเจ้าหน้าที่ก็เดินทางจากเชียงใหม่มาปรึกษาที่คลินิกสาขาเดอะมอลล์ บางแค ปรึกษาคุณหมอบอกความต้องการว่าเราทำตาสองชั้นแบบให้รู้ว่าทำ ชอบชั้นตาที่คมชัด เพราะอยากให้หน้าดูหวานขึ้น แต่สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยคือตัวเองมีภาวะ ptosis (กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง)ด้วยแต่เป็นไม่มากนะคะ ทีนี้ต้องตัดสินใจกันใหม่หมด เพราะคุณหมอบอกว่าเราควรแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงด้วย เพราะถ้าทำไปอาจจะทำให้ชั้นตาและการลืมไม่เท่ากันได้ แต่ไม่แก้ชั้นตาก็ไม่ได้แตกต่างกันเยอะ แต่ถ้าสังเกตุตัวเองก็จะเห็นถึงความต่างได้ คุณหมอให้เราเลือกเองว่าจะรับความเสี่ยงตรงนี้ได้ไหม ซึ่งความเสี่ยงนี้ก็มาพร้อมราคาที่สูงขึ้นแต่ก็ไม่มากจากเดิมเท่าไรนัก สุดท้ายแล้วคิดว่าเราต้องการมาทำศัลยกรรมตาสองชั้นเพื่อแก้ไขให้ตาเราสวยที่สุด หมอแนะนำอะไรก็ควรทำไม่งั้นจะมาเสียใจทีหลังเพราะไม่เชื่อหมอแล้วเอาราคาเป็นตัวตัดสินไม่ได้ แบ๊ตตี้เลยแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงด้วยเลยค่ะ ทำทั้งหมดคือ 1.กรีดยาว 2.เปิดหัวตา คุณหมอบอกว่าเปิดหัวตาจะช่วยให้หน้าจะดูหวานขึ้น 3.ตัดหนังตาส่วนเกิน เพราะแบ๊ตตี้ติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นมานานเลยทำให้มีหนังตาส่วนเกินมากกว่าคนปกติ 4.แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เพราะอยากให้ตาสองข้างใกล้เคียงกันมากที่สุด
หลังทำเสร็จทันทีคือสวยเลย หน้าหวานทันทีพี่ๆที่รอคิวทำทักกันเยอะมากว่าสวย ได้ยินแบบนี้มั่นใจขึ้นมากๆ แต่มีความบวมความช้ำเป็นปกติของการศัลยกรรมซึ่งตัวแบ๊ตตี้เองเป็นคนช้ำง่ายอยู่แล้วด้วยตอนแรกจะประคบร้อนเพื่อลดความบวมช้ำ แต่ที่นี่แนะนำให้เป็นการกดตาไล่เลือดไล่ยาชาแทน แปลกแต่ได้ผลจริงค่ะ อีกอย่างที่ช่วยได้คือพวกน้ำใบบัวบก น้ำมะพร้าวสด แต่ก็ต้องทานคู่กับยาที่หมอจัดให้มาด้วยนะคะ ราคาชุดยาและอุปกรณ์ล้างแผลไม่แพงค่ะเราจะไปซื้อที่อื่นก็ได้ทางคลินิกก็จะแนะนำตัวยาให้ค่ะ
ตอน 1 เดือนแรกมีความกังวลว่าจะเป็นแผลคีลอยด์ที่หัวตามากค่ะ แต่ที่คลินิกก็มีเทคนิคนวดหัวตาเพื่อลดการเป็นคีลอยด์ด้วยคือใช้นิ้วกดนวดวนๆที่บริเวณหัวตา นวดได้ตั้งแต่หลังตัดไหมเลย มีอะไรกังวลทักถามพี่ที่ดูแลได้ตลอดอันนี้ประทับใจมากๆเลยค่ะ แต่เป็น1เดือนที่ได้รับฟีดแบคที่ดีจากคนรอบข้างรู้อย่างนี้ทำตาสองชั้นตั้งนานแล้วค่ะ